ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาข่าวน้ำท่วมยึดครองพื้นที่ของสื่อสิ่งพิมพ์และสื่ออื่นๆ
จนถึงขณะนี้ความเดือดร้อนก็คงยังไม่หมดสิ้นไป หลายชีวิตยังต้องการการเยียวยาช่วยเหลือ ใครพอมีกำลังก็บริจาคทรัพย์สิน สิ่งของ บ้างก็ช่วยบริจาคแรงงาน
คนละไม้คนละมือ คนเราจะเห็นใจกันก็ยามยากนี่แหละ
สิ่งที่มาพร้อมๆกับภัยธรรมชาติครั้งนี้คือน้ำใจของคนไทยที่แสดงออกมาให้เห็นอย่างท่วมท้น
ในโลกออนไลน์มีการทวีตเตอร์รายงานน้ำท่วมและแจ้งข่าวการให้ความช่วยเหลืออย่างคึกคัก
เช่น สถานีข่าวระวังภัย @Rawangpai
, ศูนย์ข้อมูลช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม@thaiflood
,กรมชลประทาน @PR_RID เป็นต้น
บนเฟสบุ๊คเกิดเพจรายงานสถานการณ์น้ำท่วมมากมาย
ทั้งระดับประเทศ และระดับจังหวัด เช่น www.facebook.com/flood54
น้ำท่วม 54 เกาะติดสถานการณ์และการบริจาค
, www.facebook.com/room2680 น้ำท่วมให้รีบบอก
, www.facebook.com/k.sharing พระจอมเกล้าลาดกระบัง
ปันน้ำใจช่วยภัยน้ำท่วม
เว็บไซต์เฉพาะกิจที่ตั้งขึ้นมาเพื่อการนี้ก็ทำหน้าที่ได้อย่างแข็งขัน
เช่น www.truelife.com/helptogether/flood ของค่ายทรู
มีรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในแง่มุมต่างๆอย่างใกล้ชิด
เชื่อมต่อไปยังเว็บช่วยเหลือน้ำท่วมที่เกี่ยวข้อง สามารถรายงานข่าวน้ำท่วมด้วย MMS และ SMS
สำหรับเบอร์โทรศัพท์มือถือค่ายทรู ไม่เสียค่าใช้จ่าย
สำนักการระบายน้ำ http://dds.bangkok.go.th/Floodmon
มีระบบตรวจวัดน้ำท่วมบนถนนสายต่างๆในกรุงเทพ
ทั้งแผนที่ รูปถ่าย และกราฟ นับว่าทันสมัย ละเอียดลออดีทีเดียว
คงจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่อยู่ในกรุงเทพเป็นอย่างยิ่ง
ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้แหล่งทำมาหากินของหลายๆท่านได้รับความเสียหาย
บ้างก็ขาดทุนจนหมดเนื้อหมดตัว จะอย่างไรก็ตามขอให้ท่านอย่าหมดกำลังใจในการสู้ชีวิต
จงเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส โอกาสในการเริ่มต้นทำในสิ่งใหม่ๆ ใครจะไปรู้ว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ของท่านก็ได้
เดือนตุลาคมปี 2554 นอกจากจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ในไทยแล้ว
ยังเป็นเดือนที่สตีฟ จ็อบส์เจ้าของแอปเปิลคอมพิวเตอร์เสียชีวิตด้วย ผลงาน iPhone
,iPad ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นในขณะนี้ฝีมือเขาล่ะ
ตอนที่ iPad ออกมาใหม่ๆ ผมยังคิดว่าใครจะไปซื้อ
คอมพิวเตอร์อะไร คีย์บอร์ดก็ไม่มี เมาส์ก็ไม่มี เอาเงินเท่าๆกันนี้ไปซื้อโน้ตบุ๊คดีกว่า
กลายเป็นว่า iPad จุดกระแสความนิยมเรื่องแทปเล็ตให้ใช้กันอย่างแพร่หลาย
จนกระทั่งบริษัทคอมพิวเตอร์อีกหลายแห่งแห่ผลิตแทปเล็ตตามกันเป็นแถว สตีฟ
จ็อบส์เคยกล่าวทำนองว่าเขาไม่ใช่ผู้ผลิตสินค้าสนองความต้องการของตลาด
แต่เป็นผู้สร้างความต้องการนั้นขึ้นมาเอง ฉะนั้นไม่น่าแปลกใจเลยในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเขา
สตีฟ จ็อบส์มีวิกฤติใหญ่ๆในชีวิต 3 ครั้ง
ครั้งแรกคือเรื่องต้องออกจากมหาวิทยาลัย เพราะมีปัญหาเรื่องค่าเล่าเรียน
เรื่องนี้ทำให้เขาได้เลือกเรียนวิชาที่เขาสนใจจริงๆ(แบบไม่เสียเงิน)
เช่นการประดิษฐ์ตัวอักษร ต่อมามันเป็นความรู้สำคัญที่ใส่ลงไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เขาผลิตขึ้น
วิกฤติครั้งที่สองคือเขาถูกออกจากบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นมาเอง
ตอนนั้นเขารู้สึกแย่มาก แต่ต่อมาเขาก็ไปตั้งบริษัทพิกซาร์
ผู้สร้างการ์ตูนแอนนิเมชั่น ทอย สตอรี่ ก่อนที่บริษัทวอลต์ดิสนี่ย์จะซื้อกิจการไป
ช่วงเวลานี้เองที่เขาได้พบรักและแต่งงานกับภรรยาของเขา
วิกฤติครั้งสุดท้ายคือเขาเป็นมะเร็งตับอ่อน ทำให้เขาใช้ชีวิตทุกวันอย่างคุ้มค่าเหมือนว่าเป็นวันสุดท้ายของชีวิต
แม้จะรักษาหายมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ก็กลับไปเป็นซ้ำอีกครั้ง
จนกระทั่งเสียชีวิตไปในที่สุด
น้ำท่วมครั้งนี้หลายโรงงานจมน้ำเสียหาย
หนึ่งในนั้นคือโรงงานมูลค่า 3,000 ล้านของคุณตัน ภาสกรนที
เขาถึงกับร่ำไห้ต่อสาธารณะ เป็นความเสียหายที่หนักหนาสาหัส
แต่ผมเชื่อว่าคุณตันจะฟื้นตัวกลับมาได้ใหม่ในไม่ช้า
ทุกสิ่งคือมายา โลกนี้คือละคร
ชีวิตคนบางครั้งเหมือนนิยาย ก่อนจบคอลัมน์นี้ของเล่าชีวิตของคนๆหนึ่งที่เริ่มต้นจากศูนย์
เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทุกท่าน ชายคนนี้เรียนจบเพียง ป.4 เกิดในครอบครัวชาวนาที่จังหวัดร้อยเอ็ด
เข้ากรุงเทพมาทำงานโรงงานตั้งแต่อายุ 12 หลังเกณฑ์ทหาร
แต่งงานมีครอบครัว ยึดอาชีพทำนา ก่อนจะย้ายเข้ากรุงเทพอีกครั้งเพื่อรับจ้างขายไอศกรีม
ต่อมาน้องชายที่ส่งลูกชิ้นให้ร้านอาหารแนะนำให้ขายก๋วยเตี๋ยว
จึงลองทำดู ขายได้สักพักพบว่าเส้นบะหมี่ไม่มีคุณภาพ จึงคิดอยากผลิตเอง
จึงศึกษาแล้วลองทำจนถูกใจ เริ่มจากทำขายเองในร้านเพื่อลดต้นทุน ประสบความสำเร็จ
จนเป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่นอยากขายบะหมี่บ้างจึงแตกสาขาออกไปเรื่อยๆ ปัจจุบันมี 2,000 กว่าสาขา
นั่นคือเรื่องราวของ “พันธ์รบ กำลา”
เจ้าตำรับ "ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว" เถ้าแก่ร้อยร้าน
ผู้ที่ความคิดไม่เคยหยุดนิ่ง นอกจากทำแฟรนไชส์บะหมี่แล้วยังแตกไลน์เป็น “หญิงห้าข้าวหน้าเป็ด” และกำลังทำ ร้านอาหารทันสมัยชื่อ
พ่อชายสี่ หมี่&สเต็ก แถวปทุมธานี
ลองเข้าไปอ่านเรื่องราวของเขาได้ที่ www.chay4.co.th
จากเรื่องน้ำท่วมไปถึงเจ้าพ่อไอที
จบลงที่แฟรนไชส์บะหมี่ข้างถนน ทั้งหมดนี้เพื่อจะบอกกับคุณว่า คนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่ว่าจะล้มไม่เป็น
แต่ทุกครั้งที่ล้มเขาลุกขึ้นมาได้ใหม่เสมอ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปได้ครับ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น