เมื่อเร็วๆนี้ผมต้องการรับสมัครพนักงานด่วน
จึงใช้บริการค้นหาผู้สมัครงานของเว็บสมัครงานออนไลน์แห่งหนึ่ง ค่าบริการประมาณ 700 กว่าบาท ประกาศรับสมัครงานได้ 1 ตำแหน่ง
ค้นหาผู้สมัครงานได้ 200 รายชื่อ
ที่ผมเลือกเว็บแห่งนี้เพราะมีผู้สมัครในท้องถิ่นที่ผมต้องการจำนวนมาก
และราคาค่าใช้บริการไม่แพงจนเกินไป เมื่อเทียบกับเว็บแห่งอื่น
เรื่องนี้พิสูจน์ว่าข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตซื้อขายกันได้จริงๆ และทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาระยะหนึ่งแล้ว สำหรับลูกค้าใจร้อน ต้องการพนักงานมาทำงานด่วน ผมว่าดีกว่าประกาศรับสมัครงานแล้วรอให้คนโทรมาหา เพราะเราแทบจะคาดหวังอะไรจากคนเหล่านั้นไม่ได้เลย
ส่วนใบสมัครงานจากเว็บของผู้สมัครงาน เราจะได้ข้อมูลค่อนข้างครบถ้วน ทั้งอายุ เพศ การศึกษา ความสามารถต่างๆ เราสามารถเลือกให้ตรงใจ โทรไปคุย แล้วนัดมาสัมภาษณ์ น่าจะดีกว่า เร็วกว่าการตั้งรับ รอให้ผู้สมัครติดต่อเข้ามาเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
ความจริงท่านสามารถเก็บข้อมูลออนไลน์ในเรื่องต่างๆได้เช่นกัน โดยสร้างแบบฟอร์มที่ กูเกิ้ลเอกสาร https://docs.google.com จากนั้นก็ส่งลิงค์ไปให้กลุ่มเป้าหมายของท่านกรอกข้อมูล อาจจะมีการให้รางวัลเป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆ เป็นค่าเสียเวลา หากข้อมูลต่างๆเหล่านี้มีประโยชน์จริง มันจะมีมูลค่าทางธุรกิจอย่างแน่นอน
ในใบสมัครงาน หรือ Resume จะทำให้เราทราบสิ่งต่างๆหลายเรื่อง เช่น ความสามารถในการใช้ภาษา ความเรียบร้อย ความละเอียดรอบคอบของผู้สมัครงาน เป็นต้น ผมพบว่ากว่าร้อยละ 90 ใบสมัครงานยังไม่เรียบร้อย สะกดคำผิด เขียนไม่ครบ หรือไม่มีรูปถ่ายประจำตัว
ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อม และเราเองก็มีทางเลือกไม่มากนัก หากต้องการข้อมูลของใครมากขึ้นเป็นพิเศษ ผมก็คงต้องสืบค้นด้วยตนเอง เพียงเรามีข้อมูลบางส่วน เช่น email ชื่อนามสกุล หรือเบอร์โทรศัพท์ ก็ทำได้แล้ว
แหล่งข้อมูลแรกคือ Facebook.com ท่านลองใส่ email ของคนที่ท่านต้องการทำความรู้จักลงไปในช่องค้นหาสิครับ ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่มักจะมีบัญชีเฟสบุ๊คเป็นของตนเองทั้งนั้น เราจะได้เห็นหน้าค่าตาเขาในหลายๆอิริยาบถ เนื้อหาของสิ่งที่เขาโพสต์บนกระดาก็บ่งบอกว่า เขาเป็นคนนิสัยใจคออย่างไร เป็นข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่เป็นทางการเหมือนใบสมัครงาน
หากต้องการข้อมูลของเขามากยิ่งขึ้นท่านอาจจะใช้บริการค้นหาที่ google.com ใส่ชื่อหรือ email ของเขาลงในช่องค้นหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาจะพรั่งพรูออกมาเลยทีเดียว เป็นต้นว่า มีเว็บหรือบล็อกเป็นของตัวเองหรือเปล่า เคยไปแสดงความเห็นหรือประกาศขายสินค้าที่เว็บแห่งไหน ข้อมูลเหล่านี้ทำให้ท่านใช้ประกอบการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
ทำนองเดียวกันหากท่านมีข้อมูลบางส่วนของลูกค้าหรือผู้มุ่งหวัง ท่านก็สามารถทำความรู้จักเขาให้มากยิ่งขึ้น ด้วยวิธีการที่ผมกล่าวไปแล้ว email ของแต่ละคนจึงบอกสิ่งต่างๆได้มากมายเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการถึง หากเรารู้จักใช้ประโยชน์จากมัน
ที่กูเกิ้ลนอกจากค้นหาเว็บแล้ว เรายังค้นหาเรื่องอื่นๆได้อีกหลายเรื่อง เช่น ค้นหารูปที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ค้นหาบล็อกที่เขาเขียนหรือไปแสดงความคิดเห็น ค้นหาสถานที่ที่เขาอยู่หรือเคยผ่าน เขาเคยไปตั้งคำถามหรือตอบคำถามที่กูเกิ้ลกูรูหรือไม่ หรืออัพโหลดวีดีโออะไรที่ยูทูป
เรื่องนี้พิสูจน์ว่าข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตซื้อขายกันได้จริงๆ และทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาระยะหนึ่งแล้ว สำหรับลูกค้าใจร้อน ต้องการพนักงานมาทำงานด่วน ผมว่าดีกว่าประกาศรับสมัครงานแล้วรอให้คนโทรมาหา เพราะเราแทบจะคาดหวังอะไรจากคนเหล่านั้นไม่ได้เลย
ส่วนใบสมัครงานจากเว็บของผู้สมัครงาน เราจะได้ข้อมูลค่อนข้างครบถ้วน ทั้งอายุ เพศ การศึกษา ความสามารถต่างๆ เราสามารถเลือกให้ตรงใจ โทรไปคุย แล้วนัดมาสัมภาษณ์ น่าจะดีกว่า เร็วกว่าการตั้งรับ รอให้ผู้สมัครติดต่อเข้ามาเอง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
ความจริงท่านสามารถเก็บข้อมูลออนไลน์ในเรื่องต่างๆได้เช่นกัน โดยสร้างแบบฟอร์มที่ กูเกิ้ลเอกสาร https://docs.google.com จากนั้นก็ส่งลิงค์ไปให้กลุ่มเป้าหมายของท่านกรอกข้อมูล อาจจะมีการให้รางวัลเป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆ เป็นค่าเสียเวลา หากข้อมูลต่างๆเหล่านี้มีประโยชน์จริง มันจะมีมูลค่าทางธุรกิจอย่างแน่นอน
ในใบสมัครงาน หรือ Resume จะทำให้เราทราบสิ่งต่างๆหลายเรื่อง เช่น ความสามารถในการใช้ภาษา ความเรียบร้อย ความละเอียดรอบคอบของผู้สมัครงาน เป็นต้น ผมพบว่ากว่าร้อยละ 90 ใบสมัครงานยังไม่เรียบร้อย สะกดคำผิด เขียนไม่ครบ หรือไม่มีรูปถ่ายประจำตัว
ในโลกแห่งความเป็นจริง ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อม และเราเองก็มีทางเลือกไม่มากนัก หากต้องการข้อมูลของใครมากขึ้นเป็นพิเศษ ผมก็คงต้องสืบค้นด้วยตนเอง เพียงเรามีข้อมูลบางส่วน เช่น email ชื่อนามสกุล หรือเบอร์โทรศัพท์ ก็ทำได้แล้ว
แหล่งข้อมูลแรกคือ Facebook.com ท่านลองใส่ email ของคนที่ท่านต้องการทำความรู้จักลงไปในช่องค้นหาสิครับ ถ้าเป็นคนรุ่นใหม่มักจะมีบัญชีเฟสบุ๊คเป็นของตนเองทั้งนั้น เราจะได้เห็นหน้าค่าตาเขาในหลายๆอิริยาบถ เนื้อหาของสิ่งที่เขาโพสต์บนกระดาก็บ่งบอกว่า เขาเป็นคนนิสัยใจคออย่างไร เป็นข้อมูลส่วนตัวอย่างไม่เป็นทางการเหมือนใบสมัครงาน
หากต้องการข้อมูลของเขามากยิ่งขึ้นท่านอาจจะใช้บริการค้นหาที่ google.com ใส่ชื่อหรือ email ของเขาลงในช่องค้นหา ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาจะพรั่งพรูออกมาเลยทีเดียว เป็นต้นว่า มีเว็บหรือบล็อกเป็นของตัวเองหรือเปล่า เคยไปแสดงความเห็นหรือประกาศขายสินค้าที่เว็บแห่งไหน ข้อมูลเหล่านี้ทำให้ท่านใช้ประกอบการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
ทำนองเดียวกันหากท่านมีข้อมูลบางส่วนของลูกค้าหรือผู้มุ่งหวัง ท่านก็สามารถทำความรู้จักเขาให้มากยิ่งขึ้น ด้วยวิธีการที่ผมกล่าวไปแล้ว email ของแต่ละคนจึงบอกสิ่งต่างๆได้มากมายเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการถึง หากเรารู้จักใช้ประโยชน์จากมัน
ที่กูเกิ้ลนอกจากค้นหาเว็บแล้ว เรายังค้นหาเรื่องอื่นๆได้อีกหลายเรื่อง เช่น ค้นหารูปที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา ค้นหาบล็อกที่เขาเขียนหรือไปแสดงความคิดเห็น ค้นหาสถานที่ที่เขาอยู่หรือเคยผ่าน เขาเคยไปตั้งคำถามหรือตอบคำถามที่กูเกิ้ลกูรูหรือไม่ หรืออัพโหลดวีดีโออะไรที่ยูทูป
ลองค้นที่ email ของตัวเอง เขาเคยส่ง email ขยะมาให้เราหรือเปล่า แล้วลองเข้าไปค้นที่คลาสสิฟายด์ดังๆของที่ต่างๆ เช่น
pantip.com เขาเคยไปประกาศขายของอะไรไว้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้เป็นการสะกดลอยพฤติกรรมของคนๆหนึ่งบนโลกออนไลน์
เพื่อทำความรู้จักเขาให้มากยิ่งขึ้น
ตอนที่ผมค้นหาใบสมัครงานผมพบน้องผู้ชายคนหนึ่ง อายุยังน้อย เพิ่งเรียนจบมัธยมจากโรงเรียนชื่อดัง น่าสนใจมาก ผมคิดว่าเขาอาจจะเป็นคนที่ขาดโอกาส ทางบ้านฐานะไม่ดีต้องออกมาทำงานช่วยเหลือครอบครัว แต่เมื่อเข้าไปค้นที่เฟสบุ๊คของน้องเขาดูพบรูปประจำตัวมีรอยสักเต็มแผ่นหลัง ท่าทางหมอนี่จะเกเรไม่เบา จึงระงับความคิดที่จะเรียกเขามาสัมภาษณ์
ตอนที่ผมค้นหาใบสมัครงานผมพบน้องผู้ชายคนหนึ่ง อายุยังน้อย เพิ่งเรียนจบมัธยมจากโรงเรียนชื่อดัง น่าสนใจมาก ผมคิดว่าเขาอาจจะเป็นคนที่ขาดโอกาส ทางบ้านฐานะไม่ดีต้องออกมาทำงานช่วยเหลือครอบครัว แต่เมื่อเข้าไปค้นที่เฟสบุ๊คของน้องเขาดูพบรูปประจำตัวมีรอยสักเต็มแผ่นหลัง ท่าทางหมอนี่จะเกเรไม่เบา จึงระงับความคิดที่จะเรียกเขามาสัมภาษณ์
อินเตอร์เน็ตไม่ใช่โลกแคบๆของคนจำนวนจำกัดอีกต่อไป
มันสามารถให้คุณให้โทษกับผู้คนได้ ปัจจุบันจะพบว่าสื่อต่างๆมักอ้างอิงข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต
เช่น เชิญคนที่ทำคลิปวีดีโอ โด่งดังอยู่ในยูทูปมาออกรายการ
ข่าวคึกโครมเรื่องล่าสุดก็คือเรื่อง เสก โลโซก็โดนเด้งออกจากแกรมมี่
เพราะอดีตภรรยาเอารูปเขาเสพยามาโพสต์ทางเฟสบุ๊ค
ปิดท้ายคอลัมน์ในครั้งนี้ด้วยหนังสือเล่มล่าสุดที่ผมกำลังอ่าน
เป็นหนังสือที่เจ้าของธุรกิจหรือผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการตลาดทุกท่านน่าจะศึกษา
“การตลาดขั้นเทพ” ชื่อภาษาอังกฤษคือ Motivational Marketing เขียนโดย
Robert Imbriale ผู้สร้างยอดขายถล่มทลายบนโลกออนไลน์ในสหรัฐอเมริกามาแล้ว
ผู้เขียนไม่ได้เรียนจบมาด้านการตลาด
แต่สนใจศึกษาค้นคว้า จนเป็นมืออาชีพและทำงานด้านการตลาดให้กับบริษัทหลายแห่ง
เขาเคยทำงานกับ Anthony
Robbins สุดยอดนักฝึกอบรมผู้เขียนหนังสือ ปลุกยักษ์ใหญ่ในตัวคุณ (Awaken
the Giant within) เป็นเวลาหลายปี และค้นพบเรื่องราวของ “การตลาดที่กระตุ้นอารมณ์และจิตใจ”
เขากล่าวว่านักการตลาดทั่วไปสนใจว่าจะฝึกอบรมนักขายของตัวเองด้วยเทคนิคอะไร
แทนที่จะสนใจว่าลูกค้าของเขาสนใจซื้อสินค้าเพราะอะไร
เขาค้นพบว่าคนส่วนใหญ่ซื้อสินค้าเพราะอารมณ์ แต่ก็พยายามหาเหตุผลมาสนับสนุกการซื้อของตัวเองให้หนักแน่นขึ้น
หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องแรงกระตุ้นทางอารมณ์ที่มีผลต่อการตัดสินใจ
5 ประการ
การสร้างโฆษณาที่ดึงดูดอารมณ์ กลยุทธ์การโฆษณาสำหรับสื่อต่างๆทั้งสิ่งพิมพ์
โทรทัศน์ วิทยุ และเว็บไซต์ การทำจดหมายเสนอขาย ฯลฯ อ่านสนุก เข้าใจง่าย ได้ความรู้ดี
ลองไปหาซื้อมาอ่านดูนะครับ
การประกอบอาชีพหรือทำธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ เพราะโลกสมัยนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
เราต้องปรับตัวตาม เพียงคุณอยู่กับที่วันหนึ่งก็อาจจะพบว่าตนเองล้าหลังผู้อื่นแล้ว
ปี 2555 ที่มาถึงนี้ขอให้เป็นปีทองของผู้ที่ตั้งใจทำมาหากินทุกคนครับ.