เมื่อเร็วๆนี้ เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเรื่องของ “เรยา” ในละครดอกส้มสีทอง ว่าสมควรจะถูกเซ็นเซอร์หรือไม่ เพราะกลัวว่าเยาวชนจะเอาเป็นเยี่ยงอย่าง สำหรับความเห็นของผม ผมว่าหลายเรื่องในทีวี อาทิ การปล่อยให้ผู้ใหญ่นิสัยไม่ดีบางคนออกมาพูดโกหก ตลบตะแลง ให้ร้ายคนอื่น อย่างไร้ยางอาย น่าเซ็นเซอร์มากกว่า แต่ไม่ยักทำ
มันเป็นไปตามหลักอุปสงค์อุปทาน มีผู้ชมจึงมีการผลิตรายการอย่างที่ว่า ละครบางเรื่องฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่า น้ำเน่าเหลือเกิน แต่ก็มีคนดู ผมเชื่อว่าเยาวชนสมัยนี้ฉลาด มีวิจารณญาณ รู้จักเลือกครับ ผมเองตอนนี้ก็เลิกดูทีวีไปนานแล้ว เพราะขี้เกียจดูหนังโฆษณา กว่าจะได้ดูละครหรือรายการสักตอนหนึ่ง ชมโฆษณาจนลืมไปว่าตอนที่ผ่านมาไปถึงไหนแล้ว
ตอนนี้ละครทีวีหรือรายการโทรทัศน์หลายๆรายการมีการทำเป็นคลิปขึ้นเว็บ ให้เรารับชมย้อนหลังได้ทางอินเตอร์เน็ต ข้อดีของการรับชมทางอินเตอร์เน็ตคือเราสามารถเลือกดูเฉพาะสิ่งที่เราสนใจเท่านั้น ลองติดตามที่ ช่อง 3 www.thaitv3.com, ช่อง 5 www.tv5.co.th, ช่อง 7 www.ch7.com, ช่อง 9 www.mcot.net
การที่ผู้ชมสามารถกำหนดสิ่งที่ตัวเองต้องการจะดูได้ทางอินเตอร์เน็ตทีวี ทำให้เขาตั้งใจดูกว่าทางทีวีทั่วไป ซึ่งมักเปิดเครื่องทิ้งไว้แล้วทำธุระอย่างอื่นไปพร้อมๆกัน ดูบ้างไม่ดูบ้าง สิ่งนี้กลายเป็นจุดขายโฆษณาสำคัญของสื่อทางอินเตอร์เน็ต เว็บอินเตอร์เน็ตทีวีหลายรายการขายโฆษณาได้แล้ว บ้างก็เป็นโฆษณาภาพแปะบนเว็บ บ้างก็เป็นคลิปโฆษณาก่อนเข้าสู่รายการ
เราอาจเคยเห็นละครซิตคอมหลายเรื่องโฆษณาสินค้าแฝงในละคร เป็นอุปกรณ์ตกแต่งฉาก อยู่ในประโยคสนทนาของตัวเอกและอื่นๆอีกสารพัด ลองดู www.sausagemansion.com ละครซอสเสจแมนชั่น เป็นซิตคอมที่รับชมได้ทางอินเตอร์เน็ต ทำขึ้นเพื่อโฆษณาไส้กรอกของซีพี พระเอกเป็นชื่อไส้กรอก นางเอกชื่อทัพพี สนุกดีทีเดียวเชียว
เดี๋ยวนี้แม้แต่เว็บของสื่อสิ่งพิมพ์เกือบทุกแห่งก็จะมีคลิบข่าวให้คนรับชม เพราะต้องยอมรับว่าการดูภาพเคลื่อนไหวน่าสนใจกว่าการมีแต่ตัวหนังสือและภาพนิ่ง ตัวอย่างเช่น เว็บของมติชน www.matichon.co.th และหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ www.bangkokbiznews.com ต่อไปเมื่อนักข่าวเมื่อไปสัมภาษณ์แหล่งข่าว เขาคงต้องบันทึกคลิปการสัมภาษณ์ไปลงที่เว็บด้วย
ตัวอย่างของคนทำนิตยสารที่ขยับมาทำอินเตอร์เน็ตทีวี คือวงค์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ ผู้ก่อตั้งนิตยสาร aday ตอนนี้เขาทำรายการทีวีทางอินเตอร์เน็ตชื่อ aHere ทาง www.ihere.tv เป็นรายการสัมภาษณ์คนที่เขาอยากจะคุยด้วยตามสไตล์ของเขา แขกรับเชิญรายการที่ผ่านมาได้แก่ เนวิน ชิดชอบ ตูน บอดี้สแลม และตัน ไม่ตัน(โออิชิ)
www.ihere.tv ปัจจุบันมีผู้เข้าชม 18 ล้านคนแล้ว รายการยอดนิยมได้แก่ “เจาะข่าวตื้น” โดย จอห์น วิญญู สโลแกนของรายการคือ “ดูถูกสติปัญญา” เนื้อหารายการจะเสียดสีสังคม ประชดการเมือง ด้วยลีลากวนๆ ขำๆ ยียวน สนุกสนาน มีคนติดตามมากมาย ได้ข่าวว่ารายการนี้โด่งดังจนกำลังจะได้ไปฉายในรายการทีวีจริงๆแล้ว
อินเตอร์เน็ตทีวีเป็นเวทีให้เด็กรุ่นใหม่ ไฟแรงหลายคนได้แสดงออก อาทิ น้องปลื้ม (ลูกชายคุณ
www.fukduk.tv เป็นทีวีทางอินเตอร์เน็ตรุ่นบุกเบิกของเมืองไทย มีหลายรายการ อาทิ รายการ “มหาเนิร์ด” เกี่ยวกับ IT และเทคโนโลยี รายการ”บางกอกกลิ้ง” ท่องเที่ยวกรุงเทพ “กำไข่ ใส่ข่าว” ประเด็นสังคม “ชิวหาพาชิม” เรื่องอาหารการกิน เป็นรายการทีวีทางเลือกโดยคนรุ่นใหม่ ลองเข้าไปรับชมได้ครับ
แท็บเล็ตและสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ๆที่ออกมาทำให้การออนไลน์เป็นเรื่องง่ายขึ้น อัพโหลดภาพ โพสต์ข้อความ หรือบันทึกคลิปวีดีโด แล้วเอาขึ้นเว็บ ใช้เวลาแป๊บเดียวเท่านั้น ตัวอย่างอินเตอร์เน็ตทีวีที่กล่าวมาข้างต้นมีกระบวนการผลิตที่ทันสมัย มีการตัดต่อ ใส่เพลงประกอบ มีเอฟเฟค น่าตื่นตาตื่นใจ คนธรรมดาทั่วๆไปทำไม่ได้ง่ายๆ แต่ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้
รายการครัวกากๆ www.gaggag.tv โดย เชฟหมี ชายอ้วนใส่เสื้อกล้าม สวมแว่นสีชามาแสดงวิธีการทำอาหารโดยใช้ของเหลือๆจากตู้เย็น ถ่ายทำโดยกล้องธรรมดา หรืออาจจะเป็นโทรศัพท์มือถือด้วยซ้ำ ใครๆก็ทำได้ สำคัญที่เนื้อหามากกว่า พิธีกรพูดไปสบถไป แต่คลิปนี้มีผู้เข้าชมนับล้านคนแล้ว
เชฟหมี เป็นอาจารย์สอนวิชาปรัชญา ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร คิดทำรายการนี้ขึ้นมาเพราะวันหนึ่งไปค้างบ้านเพื่อนแล้วตื่นขึ้นมาหิว แต่ไม่อยากลงไปซื้อของกินข้างล่าง จึงหาของที่เหลือๆจากตู้เย็นมาทำเป็นอาหาร จากนั้นก็ถ่ายทอดให้คนอื่นชมทาง Youtube.com ได้ไปออกรายการของคุณแหม่มสุริวิภาที่ช่อง 9 และอื่นๆอีกหลายรายการ โด่งดังเป็นที่เรียบร้อย
เล่ามาทั้งหมดนี้เพื่อที่จะบอกว่า ปัจจุบันทีวีทางอินเตอร์เน็ตกำลังมีบทบาทและเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกที เป็นสื่อที่เข้าถึงง่ายทั้งผู้ชมและผู้ผลิตรายการ เร็วๆนี้กูเกิ้ลก็จะออกกูเกิ้ลทีวี ทีวีที่เล่นเน็ตได้ออกมา วงการนี้คงคึกคักมากยิ่งขึ้น คุณสามารถชมการทำงานของกูเกิ้ลทีวีได้ที่ http://www.google.com/tv
เรื่องที่คุณสนใจ เรื่องที่คุณเชี่ยวชาญ เรื่องรอบๆตัวคุณ แปรรูปมันเป็นคลิปวีดีโอง่ายๆ ด้วยเครื่องมือที่คุณมี แล้วอัฟโหลดขึ้นเว็บแบ่งปันให้คนอื่นได้ชม ถ้าสิ่งนั้น “เจ๋ง” จริง จะมีคนเข้ามาดูจำนวนมากแล้วเกิดการบอกต่อ และวันหนึ่งมันจะมีมูลค่าขึ้นมา
ผมเชื่อว่าอินเตอร์เน็ตทีวีจะสร้างฮีโร่หน้าใหม่ๆอีกมากมายขึ้นมาในวงการสื่อสารมวลชน หนึ่งในนั้นผมอยากให้มีแฟนคอลัมน์ของเศรษฐีออนไลน์บ้างเท่านั้นเอง.